วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2564

บทที่4

 

บทที่  4

ผลการศึกษา

          รายงานการศึกษาค้นคว้าเรื่องการศึกษาวิธีการแก้ปัญหาการสะพายกระเป๋ามวลมาก  ผู้ศึกษาได้กำหนดวัตถุประสงค์ไว้  2  ประการ  ดังนี้

1.  เพื่อศึกษาผลกระทบที่เกิดจากการสะพายกระเป๋ามวลมาก                            

2.  เพื่อศึกษาวิธีการแก้ไขปัญหาการสะพายกระเป๋ามวลมาก

วิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์ 

1.  ผลกระทบที่เกิดจากการสะพายกระเป๋ามวลมาก

จากการศึกษาเรื่อง การศึกษาวิธีการแก้ปัญหาการสะพายกระเป๋ามวลมากในครั้งนี้พบว่า  ผลกระทบต่อการสะพายกระเป๋าหนักมากเกินไป คือ ทำให้ร่างกายทำงานหนักมากกว่าปกติ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย กล้ามเนื้อ โครงสร้าง บุคลิกภาพ และทำให้การพัฒนา โดยทั่ว ๆ ไปไม่ดีเท่าที่ควรและมีอาการปวดขา ปวดหลัง ปวดคอ ซึ่งเด็กไม่ควรจะมีอาการเช่นนี้และเมื่อร่างกายไม่แข็งแรงมีอาการเจ็บปวดก็จะส่งผลต่อสุขภาพจิตจนเกิดเป็นความเครียด เมื่อเด็กเครียดก็จะทำให้ผลการเรียนแย่ลงมีผลต่ออนาคตของเด็กอย่างแน่นอน กระเป๋าหนังสือของนักเรียนก็ถือว่ามีผลกระทบต่อกระดูกสันหลังของเด็ก บางครั้งเด็กที่ถือกระเป๋าแบบหิ้วหรือแบบสะพายข้างถ้ามีน้ำหนักมากเด็กก็จะเอียงตัวไป ข้างใดข้างหนึ่งเพื่อรับน้ำหนัก ทำให้เมื่อเราเอียงตัวไปบุคลิก ภาพเราก็จะเป็นท่านั้น กล้ามเนื้อก็จะพัฒนาไปในลักษณะข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งคนเราปกติ ถ้าใช้งานร่างกายข้างใดข้างหนึ่ง หรือซีกใดซีกหนึ่ง ข้างนั้นก็จะทำงานหนักมากกว่าปกติส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายของเด็กน้ำหนักของกระเป๋าที่เหมาะสมสำหรับเด็กที่อายุไม่ถึง 10 ขวบไม่ควรเกิน 10-15 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนัก  ตัว ขึ้นอยู่ว่าเด็กจะตัวโตรับน้ำหนักมากแค่ไหน เหมือนงานวิจัยที่ประเทศอเมริกาทำการวิจัยออกมาว่าเด็กต้องแบกกระเป๋าไม่ควรเกิน 25 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว แต่เราต้องเข้าใจด้วยว่าฝรั่งโครงสร้างใหญ่กว่าคนไทยจึงไม่ควรแบกน้ำหนักมากขนาดนั้น ยกตัวอย่างที่ถูกต้อง เช่น เด็กน้ำหนัก 20 กิโลกรัม ควรแบกน้ำหนักกระเป๋าอยู่ที่ประมาณ 2-3 กิโลกรัม ไม่ควรแบกเกินมากกว่านี้ หลังจากนั้นพอเด็กโตขึ้นมีอายุมากกว่า 10 ขวบไปแล้วเราจึงค่อยปรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นให้เหมาะสมกับตัวเด็กอย่างไรก็ตาม การสะพายเป้นั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับเด็ก เพราะได้ใช้ไหล่ 2 ข้างทำให้น้ำหนักสมดุลกันอยู่ตรงกลางหลังรวมทั้งกล้ามเนื้อขา ตะโพกจะช่วยรองรับได้ดีกว่าเราสะพายข้างเดียว ดังนั้น การเลือกกระเป๋าสะพายให้เด็กควรเลือกที่ใช้งานได้ดีไม่ตามแฟชั่น โดยเฉพาะสายกระเป๋าไม่ควรใช้แบบสายเส้นเล็ก ๆ เพราะจะทำให้ปวดหลัง ส่วนของที่จะใส่ในกระเป๋าควรมีน้ำหนักไม่มากเกินไปรวมทั้งต้องจัดระเบียบของในกระเป๋าให้ดีด้วย การใส่ของที่มีน้ำหนักมาก ๆ นั้นควรใส่ไว้ชิดกับแผ่นหลังตัวเราหรือด้านในสุดของกระเป๋าและใส่ของน้ำหนัก น้อย ๆ ไว้ด้านนอกเพื่อจะได้ไม่ถ่วงน้ำหนักมากเกินไป  ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรสังเกตลูกหลานว่ามีอาการกระดูกสันหลังคดหรือไม่ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ก่อนพามารักษา โดยเริ่มจากให้เด็กถอดเสื้อออกหรือใส่เสื้อบาง ๆ สวมกางเกงขาสั้น ไม่ต้องสวมรองเท้า แล้วยืนตัวตรง สังเกตว่า เท้าทั้ง 2 ข้างและระดับของไหล่ทั้ง 2 ข้างเท่ากัน หรือไม่หรืออยู่ในระดับเดียวกันหรือไม่ ตะโพกและหลังเอียงหรือไม่ ให้มองทั้งด้านตรง ด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลังอย่างละเอียด หากเด็กที่มีรูปร่างผอมจะสังเกตได้ง่ายโดยให้สังเกตตรงกระดูกปุ่ม ๆ ข้างหลังว่าเรียงตรงหรือไม่ หากมีอาการเอียงหรือผิดปกติจุดใดจุดหนึ่งควรรีบมาปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการรักษา  หรือใช้สมุนไพรพื้นบ้านในการรักษาอาการปวดเมื่อย

2.  แนวทางการแก้ปัญหาการสะพายกระเป๋ามวลมาก

 1. การเลือกซื้อกระเป๋าควรคำนึงถึงเนื้อผ้าที่เบาโครงสร้างของกระเป๋าวัสดุโครงควรใช้อะลูมิเนียมเพราะเบากว่าเหล็กและภาพรวมของกระเป๋าต้องมีน้ำหนักเบา (ไม่ควรเกิน 1 กิโลกรัม)

 2. สถานศึกษาควรมีการลดน้ำหนักวัสดุอุปกรณ์ให้มากที่สุดโดยใช้สมุดปกอ่อนแทนการใช้สมุดปกแข็งความหนาประมาณ 40 หน้า

 3. ผู้บริหารครูควรให้คำแนะนำแก่นักเรียนโดยกำชับให้ผู้ปกครองช่วยดูแลเรื่องการจัดตารางเรียนในแต่ละวัน

 4. นักเรียนไม่จำเป็นต้องนำสมุดหนังสือเรียนกลับบ้านหรือไปโรงเรียนทุกวิชาให้นำกลับไปบางวิชาที่จะต้องนำไปทบทวนที่บ้านหรือบางวิชาควรเก็บไว้ที่โรงเรียนโดยไม่ต้องกลัวสูญหายเป็นการฝึกคุณธรรมการไม่ลักขโมยหนังสือของผู้อื่นซึ่งทางโรงเรียนต้องมีวิธีการดูแลและจัดเก็บหนังสือเป็นอย่างดีด้วย

 5. โรงเรียนจัดน้ำดื่มที่สะอาดและเพิ่มจุดบริการให้มากขึ้นเพื่อนักเรียนจะได้ไม่ต้องนำกระติกน้ำมาจากบ้านและนักเรียนควรมีแก้วน้ำส่วนตัวจัดไว้ที่ชั้นเรียน

 6. จัดให้มีชั้นเก็บหนังสือหรือ locke ของนักเรียนเป็นรายบุคคลไว้ในชั้นเรียนเพื่อใช้สำหรับเก็บของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นเป็นการลดปริมาณสิ่งของในกระเป๋า

 7. จัดมุมหนังสือในชั้นเรียนจัดหาหนังสืออ้างอิงพจนานุกรมและหนังสืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้เรียนหรือเรื่องที่เรียนอยู่สำหรับใช้ค้นคว้าเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็นต้องพกหนังสือเหล่านั้นในกระเป๋า

 8. จัดอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ใช้ในชั้นเรียนเพื่อให้นักเรียนได้ใช้ร่วมกันโดยไม่จำเป็นต้องใช้ของส่วนตัวเป็นการฝึกให้นักเรียนรักษาสิ่งของร่วมกันและเรียนรู้เรื่องการแบ่งปัน  

 9. กระบวนการเรียนการสอนของครูควรเป็นการสอนแบบบูรณาการทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สมุดและหนังสือเป็นจำนวนมากและเน้นให้ครูจัดการเรียนการสอนที่เน้นกระบวนการและใช้กิจกรรมที่หลากหลายลดการใช้สาระในหนังสือและแบบเรียนลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทที่5

  บทที่   5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 1.   สรุปผลการศึกษา           จากการศึกษาพบว่า   ปัญหาที่เราต้องเจอในทุกวันก็คือการสะพายกระเป๋าที่มีมว...